หากคุณกำลังทำธุรกิจขายของในปี 2025 และรู้สึกว่าตลาดหนักขึ้น ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า บทความนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า ทำไมบางธุรกิจถึงเติบโตแบบก้าวกระโดด ในขณะที่หลายแห่งกำลังดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด
เศรษฐกิจไทยหลังโควิดเป็น K-Shape Recovery อย่างแท้จริง คือมีธุรกิจที่ขาขึ้นแบบพุ่งทะยาน แต่ก็มีธุรกิจขายของจำนวนมากที่ต้องปิดกิจการ แล้วอะไรคือปัจจัยที่ทำให้เกิดความแตกต่างกันขนาดนี้?
ก่อนจะไปถึงกลยุทธ์ ลองมาดูตัวอย่างธุรกิจขายของที่ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา:
ไบอี้กรุ๊ป - ธุรกิจร้านอาหารที่ขยายเป็น 16 แบรนด์ มีรายได้ถึง 3,000 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าธุรกิจขายของในแนวอาหารยังมีโอกาสเติบโตได้มหาศาล
สีจันทร์ - แบรนด์สกินแคร์ไทยที่ยอดขายพุ่งขึ้นอันดับ 1 มีรายได้ 1,600 ล้านบาท เติบโต 58% พิสูจน์ว่าธุรกิจขายของในกลุ่มความงามยังเป็นตลาดทอง
สุกี้ตี่น้อย - ร้านอาหารที่ทำกำไรทะลุ 1,100 ล้านบาท ท่ามกลางข่าวที่ว่ากำลังซื้อตก แต่เขายังโตได้เพราะเน้น Value for Money
ไทยโคโค่ - ธุรกิจน้ำมะพร้าวที่บุกตลาดจีน มีรายได้ 6,619 ล้านบาท เติบโต 41% แสดงว่าธุรกิจขายของไทยสามารถไปได้ในต่างประเทศ
การัน - แบรนด์ชาไทยพรีเมียมที่เติบโตจาก 100 ล้านเป็น 160 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 60% ในตลาด Red Ocean ที่มีคู่แข่งเต็มไปหมด
จากตัวอย่างเหล่านี้จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขายของประเภทไหน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องสำอาง หรือเครื่องดื่ม ล้วนมีโอกาสเติบโตได้ทั้งนั้น หากเข้าใจและจับเทรนด์ให้ถูก
ธุรกิจขายของยุคนี้ไม่จำเป็นต้องขายให้ทุกคนชอบ แต่ต้องขายให้กลุ่มเป้าหมายรัก การสำรวจพบว่า Gen Z และ Millennials ถึง 59% รู้สึกผูกพันกับแบรนด์เล็กที่เฉพาะทางมากกว่าแบรนด์ใหญ่ เพราะแบรนด์เหล่านี้มีจุดยืนชัดเจน มีเรื่องเล่า และรู้ว่าตัวเองคือใครจริง ๆ
ผู้บริโภคยุคใหม่ไม่ได้ต้องการของแพง แต่ต้องการ "ของที่มีความหมาย" สินค้าที่ตรงจุด ราคา Affordable และเข้าถึงได้ จึงเป็นสิ่งที่ธุรกิจขายของขนาดเล็กถึงกลางมีข้อได้เปรียบมากกว่าแบรนด์ใหญ่
Wellness ไม่ได้หมายถึงแค่อาหารเสริมหรือฟิตเนส แต่รวมถึงทุกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ ทั้งกาย ใจ และจิตวิญญาณ ธุรกิจขายของที่เกี่ยวข้องกับ Wellness กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นอาหารคลีน สกินแคร์ธรรมชาติ หรือแม้แต่รีสอร์ทเพื่อสุขภาพ
ตัวอย่างเช่น ชีวาสม - รีสอร์ทที่ทำมา 30 กว่าปี มีรายได้ 1,800 ล้านบาทในปี 2024 โดยรายได้จาก Wellness Resort คิดเป็น 28% ของรายได้รวม แสดงให้เห็นว่าเทรนด์นี้ยังแรงและยั่งยืน
ผู้บริโภคยุคนี้ใส่ใจมากขึ้นว่า "สินค้าชิ้นนี้มาจากไหน ใครเป็นคนทำ ทำอย่างไร" Natural Intellectual Property คือทรัพย์สินทางปัญญาที่อยู่บนฐานของธรรมชาติ เป็นความรู้เฉพาะถิ่นที่ปลอมแปลงไม่ได้ ลอกเลียนยาก
ธุรกิจขายของไทยมีข้อได้เปรียบตรงนี้มาก ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน น้ำมะพร้าว ยางพารา หรือภูมิปัญญาท้องถิ่น สิ่งเหล่านี้คือจุดแข็งที่ไม่มีใครเอาไปได้ ไทยโคโค่และอีฟที่ประสบความสำเร็จในตลาดจีนก็มาจากการใช้ประโยชน์จากมะพร้าวไทยที่มีคุณภาพเหนือกว่า
ผู้ประกอบการรายใหญ่ทั่วโลกกำลังมองหา Supply Chain ที่เป็น Green มากขึ้น ธุรกิจขายของที่สามารถตอบโจทย์เรื่อง ESG (Environmental, Social, Governance) จะได้เปรียบในการเข้าถึงตลาดระดับโลก
ตัวอย่างเช่น Thai Eastern Group ที่ผลิตยางส่งออกให้กับแบรนด์ยางรถยนต์ระดับโลก มีรายได้เติบโต 50% ในไตรมาสแรกปี 2568 เพราะสามารถตอบโจทย์มาตรฐาน EUDR (EU Deforestation Regulation) ที่ต้องการให้ผลิตภัณฑ์ยางไม่ทำลายป่า
AI คือ Game Changer ที่ทำให้ธุรกิจขายของขนาดเล็กสามารถทำได้เท่ากับรายใหญ่ โดยใช้ต้นทุนที่ถูกกว่าหลายเท่าตัว ตัวอย่างเช่น Flash Express พลิกกำไร 940 ล้านบาทด้วยการใช้ AI เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
ธุรกิจขายของที่นำ AI มาใช้ในการบริหารจัดการสต็อก วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า หรือทำ Marketing จะมีความได้เปรียบอย่างมาก
ธุรกิจขายของที่ประสบความสำเร็จล้วนเข้าใจเทรนด์โลก และเลือกเทรนด์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตัวเองมาใช้ ไม่ใช่ตามเทรนด์ทุกอย่าง แต่เลือกเฉพาะที่สามารถนำมาต่อยอดได้จริง
ต้องรู้ว่าจุดแข็งของตัวเองคือะไร อาจจะเป็นวัตถุดิบ ทักษะ ภูมิปัญญา หรือความสัมพันธ์กับคู่ค้า ใช้กรอบ 3D:
ธุรกิจขายของที่เติบโตได้ล้วนมีระบบจัดการที่แข็งแรง ไม่ใช่แค่ขายเก่ง แต่ต้องมี Business Strategy ที่ชัด มี Branding & Marketing ที่โดนใจ รู้จักใช้ AI และสร้างระบบที่ทำให้ธุรกิจโตได้อย่างยั่งยืน
ธุรกิจขายของยุคนี้ทำคนเดียวไม่ได้แล้ว การมี Partner ที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยง กระจายต้นทุน และขยายโอกาสทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นพาร์ทเนอร์ด้านการลงทุน การตลาด การกระจายสินค้า หรือการส่งออก
ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะมีความท้าทาย แต่ธุรกิจขายของที่เข้าใจเทรนด์ เข้าใจตัวเอง พัฒนาทักษะ และมีพาร์ทเนอร์ที่ดี ก็ยังสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ในทุกวิกฤตมีโอกาส และโอกาสนั้นรออยู่สำหรับผู้ที่กล้าคิด กล้าทำ และกล้าปรับตัว
ปี 2025 ไม่ใช่ปีเผา แต่เป็นปีแห่งโอกาสสำหรับธุรกิจขายของที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงและเติบโต
สนใจเต็นท์ขายของ
https://mfoldingtents.lnwshop.com/
โทร 0938624847
line id : @mfoldingtents
#เต็นท์ขายของ #เต็นท์พับได้ #เต็นท์จอดรถ #เต็นท์ตลาดนัด #เต็นท์สกรีน
| หน้าที่เข้าชม | 1,226,362 ครั้ง |
| ผู้ชมทั้งหมด | 889,596 ครั้ง |
| เปิดร้าน | 12 มิ.ย. 2557 |
| ร้านค้าอัพเดท | 11 ธ.ค. 2568 |
ยินดีรับชำระเงินด้วย :
