การทำธุรกิจขายของในยุคปัจจุบันไม่ใช่แค่การนำสินค้ามาวางขายแล้วรอลูกค้า แต่ต้องใช้กลยุทธ์ที่ชาญฉลาดและเข้าใจหลักการของ Business Leverage เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจกับแนวคิดสำคัญที่จะเปลี่ยนวิธีทำธุรกิจขายของของคุณให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น
หลายคนที่เริ่มต้นธุรกิจขายของมักเจอปัญหาเดิมๆ คือ ทำงานหนักทั้งวัน ยุ่งตลอดเวลา แต่ยอดขายไม่เพิ่มขึ้น หรือบางทีก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่คุ้มกับแรงที่ใช้ไป สาเหตุหลักมาจาก 3 ข้อที่คนทำธุรกิจขายของมักมองข้าม
ข้อแรก คือไม่รู้ว่าต้องทำอะไร - เหมือนคำที่ว่า "ตอนเล่นเป็นควาย ตอนตายเป็นโค้ช" หลายคนทำธุรกิจไปโดยไม่รู้ว่าในแต่ละสเตจของธุรกิจขายของต้องโฟกัสเรื่องอะไรเป็นอันดับแรก บางธุรกิจต้องเน้น Conversion Rate ก่อน ไม่ใช่ไปทำ Branding บางธุรกิจถึงเวลาต้องหา Collaboration ไม่ใช่พยายามทำคนเดียว
ข้อที่สอง คนส่วนมากมี Mindset ว่าต้องทำด้วยตัวคนเดียว - เพราะกลัวรบกวนคนอื่น กลัวการปฏิเสธ หรือรู้สึกว่าปัญหาของเราเราต้องแก้เอง แต่ความจริงคือทุกปัญหาที่คุณเจอในการทำธุรกิจขายของเคยมีคนแก้มาแล้ว ถ้าคุณหาคนที่เคยแก้ปัญหานั้นมาให้คำแนะนำ คุณจะทำได้ดีขึ้นแน่นอน
ข้อที่สาม คือไม่มีพี่เลี้ยงหรือ Mentor - การมีกุนซือประจำตัวที่คอยชี้แนะทางเป็น Factor สำคัญที่สุดที่ทำให้ธุรกิจขายของของคุณประสบความสำเร็จได้เร็วกว่าคนอื่น
คำว่า Business Leverage แปลว่า "พลังทวี" หรือ "การคานงัด" เป็นศัพท์ทางเทคนิคที่ดูหรูหรา แต่จริงๆ พื้นฐานของมันมาจากความขี้เกียจ เวลาที่เราเป็นคนขี้เกียจ เราจะคิดหาวิธีที่ประหยัดเวลาและได้ผลลัพธ์ ใช้แรงเราน้อยลง ใช้เวลาน้อยลง แต่ได้ผลเท่าเดิมหรือดีกว่าเดิม
สำหรับธุรกิจขายของแล้ว การใช้ Business Leverage หมายถึงการหาตัวช่วย ไม่ว่าจะเป็น คนที่มาช่วยงาน ช่องทางการขายใหม่ กลยุทธ์การตลาดที่ดีกว่า หรือเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยทำงาน เพื่อให้เราได้ผลลัพธ์มากขึ้นโดยไม่ต้องทำงานหนักขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าวันนี้ทำงาน 8 ชั่วโมงได้เงิน 100 บาท แล้วอยากได้ 1,000 บาท วิธีการไม่ใช่ทำงาน 80 ชั่วโมง แต่ต้องหาวิธีอื่น เช่น หาคนมาช่วย หาช่องทางขายเพิ่ม หรือหากลยุทธ์ใหม่ที่ทำให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้น
หลายคนที่ทำธุรกิจขายของยุ่งทั้งวัน ตั้งแต่เช้าถึงค่ำ แต่ยอดขายไม่ขยับ สาเหตุเพราะจมอยู่กับงาน Operation มากเกินไป งานบรรจุหีบห่อ งานตอบแชท งานจัดส่ง ทั้งหมดนี้ต้องมอบหมายให้คนอื่นทำ
หน้าที่ของเจ้าของธุรกิจขายของที่แท้จริงคือ หาโอกาสใหม่ หาคนเก่งมาร่วมงาน หา Collaboration กับคนอื่น ยุคนี้ถ้าคุณไม่ Collaborate กับใคร คุณสู้เขาไม่ได้และไปไม่ทันคู่แข่ง
การยิงแอดสำหรับธุรกิจขายของในยุคนี้ต้องเปลี่ยนวิธีคิด ถ้ามีงบ 3,000 บาท อย่าอัดแคมเปญเดียว แต่ให้แบ่งเป็น 10 แคมเปญ แคมเปญละ 300 บาท จะทำให้ AI เรียนรู้ได้ดีกว่าและหาลูกค้าได้แม่นยำขึ้น
ต้องเช็คผลทุก 3 วัน ถ้าแอดไหนมียอด Link Click ดี แต่ไม่มี Add to Cart หรือ Purchase ให้ปิดทันที แสดงว่าคลิกผิดกลุ่ม ไม่ใช่ลูกค้าเป้าหมาย และอย่าลืมทำ A/B Testing โดยเฉพาะ Creative และ Copy ต้องทำหลายเวอร์ชั่น เพื่อหาสูตรที่ดีที่สุด
ยุคนี้ถ้าใครทำคอนเทนต์ไม่เป็น หรือไม่มีเวลาทำคอนเทนต์ใหม่ๆ โอกาสที่ธุรกิจขายของจะรอดแทบไม่มีเลย คอนเทนต์ยุคใหม่ต้องแก้ปัญหาลูกค้าให้ได้ ยิ่งเราช่วยแก้ Pain Point ได้มาก คอนเทนต์ยิ่งมีคุณค่า
สูตรทำคอนเทนต์ให้ปังคือ ต้องมี 3 ส่วน: Emotion (อารมณ์) + Solution (ทางออก) + Call to Action (ชวนให้ทำ) โดยทุกส่วนต้องเชื่อมโยงกันอย่างลื่นไหล
สำหรับ Short Video ต้องดึงความสนใจใน 3 วินาทีแรก โดยใช้ Hook ที่แรง เช่น ตัวเลขที่น่าตกใจ "ขายออนไลน์ 7 วัน ได้ล้าน" หรือคำถามที่กระตุกใจ "ทำไมคนรวยถึงชอบทำแบบนี้"
สำหรับธุรกิจขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะขายอาหารเสริม เสื้อผ้า สกินแคร์ หรืออะไรก็ตาม ถ้าสามารถทำให้มีรีวิวลูกค้าใช้จริงหรือรีวิวจาก Influencer ได้ 100 รีวิวในทุกเดือน ยอดขายจะโตขึ้นแบบเห็นได้ชัด
100 รีวิวต่อเดือนหมายถึงวันละแค่ 3 รีวิว ทำยังไงก็ได้ เอาของไปให้คนใช้ฟรี ให้เพื่อนใช้ฟรีแล้วรีวิวให้ โพสต์ช่องเขาก็ได้ไม่ต้องโพสต์ช่องเรา ให้มันเกิดขึ้นแบบนี้ ยอดขายจะโตขึ้นเอง
หลายคนที่ทำธุรกิจขายของมักคิดว่า "ของดีเขาต้องมารีวิวเอง" ใช่ว่าไม่จริง แต่มันไม่ได้จำนวนที่เราต้องการ สมัยนี้ต้องใช้น้ำใจของเราในการทำให้เขาช่วยรีวิว อาจจะแจกของฟรี ให้ส่วนลด หรือจัดกิจกรรมแจกรางวัล
จัดประกวด "รีวิวสินค้าสุดปัง" ให้ลูกค้าถ่ายคลิปสั้นรีวิวสินค้า ชิงรางวัลใหญ่ เช่น iPhone หรือทองคำ 1 บาท จะทำให้ได้คอนเทนต์ดีๆ จากลูกค้าจริง และกระตุ้นยอดขายไปในตัว
สำหรับธุรกิจขายของ Product และ Service ต้องมีการพัฒนาฟีเจอร์เสริมเสมอ ทุกๆ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี จะต้องมี Innovation ถ้าไม่มี ลูกค้า Convert ต่ำลง ลูกค้าไม่ค่อย Happy และคู่แข่งจะแซงหน้าได้ง่ายๆ
ธุรกิจเหมือนต้นไม้ ถ้ามันไม่โตขึ้น แปลว่ามันตายแล้ว ถ้ายอดขายยังเท่าเดิมในอีก 5 ปีข้างหน้า และไม่ได้พัฒนาอะไรเพิ่ม แสดงว่าอนาคตข้างหน้ามันกำลังมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ถ้าคุณไม่พัฒนา คุณจะตายไปแล้ว
การ Collaborate สำคัญมากสำหรับธุรกิจขายของยุคนี้ แต่ไม่ใช่ว่า Collaborate กับใครก็ได้ ต้องหาให้ถูกจุดและต้องเทสก่อน
กลยุทธ์คือ Start Small เริ่มอะไรบางอย่างด้วยกันเล็กๆ ไม่ใหญ่ ระยะเวลาในการเทส 1-4 เดือน หลังจากนั้นดูว่า 1+1 มากกว่า 2 หรือไม่ ถ้ามากกว่า ลุยต่อ แต่ถ้าเท่ากับ 2 หรือน้อยกว่า ให้เลิกและแยกกันดีกว่า
มีตัวอย่างสำเร็จจากธุรกิจขายของที่ขายออนไลน์อย่างเดียว มียอดขายหลักร้อยล้าน แต่ติดอยู่ที่จุดหนึ่งไปต่อไม่ได้ จนมี Collaboration กับคนที่เก่ง Modern Trade นำสินค้าเข้า 700 สาขา ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอีก 300 ล้านบาทต่อปี
การทำธุรกิจขายของให้ประสบความสำเร็จต้องมี 4 องค์ประกอบ คือ แพชชั่น (ความหลงใหล) เจตนา (เป้าหมายที่ชัดเจน) พลังงาน (ความพร้อมที่จะลงมือทำ) และ Mentor (พี่เลี้ยงที่คอยชี้แนะ)
ถ้าคุณมีแพชชั่น แต่ไม่มีเจตนาและพลังงาน คุณก็ไปไม่ถึง และถ้าไม่มีพี่เลี้ยงที่คอยชี้ทาง คุณจะต้องเสียเวลาหลงทางเป็นปี บางครั้งปัญหาที่คุณปวดหัวมาทั้งชีวิต ด้วยคำแนะนำจาก Mentor แค่ 2-3 ข้อ มันก็แก้ได้แล้ว
การทำธุรกิจขายของในยุคนี้ไม่สามารถใช้วิธีเดิมๆ ได้แล้ว ต้องเรียนรู้หลักการ Business Leverage ว่าจะทำยังไงให้ใช้แรงน้อยลง แต่ได้ผลมากขึ้น ต้องกล้าหาคนมาช่วย กล้า Collaborate และที่สำคัญคือต้องมี Mentor ที่คอยชี้ทาง
ถ้าคุณกำลังเหนื่อย กำลังยุ่ง หรือกำลังท้อกับธุรกิจขายของของคุณ สิ่งที่คุณต้องทำคือหาต้นแบบ หาคนที่เคยแก้ปัญหาที่คุณเจออยู่ ขอคำแนะนำจากเขา เพราะทุกปัญหาในโลกนี้เคยมีคนแก้มาแล้ว คุณไม่ต้องเสียเวลาไปหาคำตอบเองตั้งแต่ต้น
จำไว้ว่า ธุรกิจที่ดีคือธุรกิจที่ทำซ้ำได้ ไม่ใช่แค่ขายได้ครั้งเดียวแล้วจบ ต้องสร้างระบบให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ และที่สำคัญคือต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพราะถ้าไม่พัฒนาธุรกิจขายของของคุณจะถูกคนรุ่นใหม่ที่มี Energy เต็มมาแซงหน้าได้ง่ายๆ
สนใจเต็นท์ขายของ
https://mfoldingtents.lnwshop.com/
โทร 0938624847
line id : @mfoldingtents
#เต็นท์ขายของ #เต็นท์พับได้ #เต็นท์จอดรถ #เต็นท์ตลาดนัด #เต็นท์สกรีน
| หน้าที่เข้าชม | 1,226,362 ครั้ง |
| ผู้ชมทั้งหมด | 889,596 ครั้ง |
| เปิดร้าน | 12 มิ.ย. 2557 |
| ร้านค้าอัพเดท | 11 ธ.ค. 2568 |
ยินดีรับชำระเงินด้วย :
