หลายคนคิดว่าการทำธุรกิจขายของให้ประสบความสำเร็จนั้น ต้องมีเส้นสาย ต้องมีคนหนุนหลัง หรือต้องมีทุนมหาศาล แต่ความจริงแล้ว ผู้ประกอบการหนุ่มสาวที่ประสบความสำเร็จหลายคนเริ่มต้นจากศูนย์โดยไม่มี Connection เลย และนั่นกลับกลายเป็นข้อได้เปรียบ เพราะไม่ต้องตอบแทนบุญคุณใคร ไม่ต้องเป็นหนี้บุญคุณ ทุกอย่างที่ได้มาล้วนมาจากการทำด้วยมือตัวเอง
ข้อดีของการเริ่มต้นธุรกิจขายของแบบไม่มีเส้นสายคือ คุณจะรู้ทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง เพราะต้องทำเองหมด แม้ข้อเสียจะเป็นเรื่องของความช้า และอาจจะเจ็บตัวมาเยอะในช่วงแรก แต่ท้ายที่สุดแล้ว คนเดียวที่คุณต้องขอบคุณคือลูกค้า ไม่ใช่เจ้าหน้าที่คนไหน ไม่ใช่คนมีอิทธิพลคนใด นี่คือการเริ่มต้นที่แท้จริงของการทำธุรกิจ
เวลาทำธุรกิจขายของ หลายคนมักจะบอกว่า "สินค้าของเราดีมาก อร่อยมาก คุณภาพสูง" แต่คำว่า "ดี" นั้นวัดไม่ได้ คนละคนมีความหมายของคำว่าดีไม่เหมือนกัน แต่คำว่า "ชัด" นั้นวัดได้ เวลาคุณวางแบรนด์ของคุณบน Positioning Map คุณต้องรู้ว่าคุณอยู่จุดไหน ทับใครอยู่หรือเปล่า หรือเบียดใครมั้ย
ถ้าแบรนด์ของคุณไม่ชัด คุณจะเหนื่อยไปเรื่อยๆ เพราะต้องแข่งขันกับคนที่ทำเหมือนกัน ลูกค้าจะสับสนว่าทำไมต้องเลือกคุณ การทำธุรกิจขายของที่ดีต้องมี Positioning ที่ชัดเจน ไม่ใช่แค่บอกว่าดี แต่ต้องบอกได้ว่าดียังไง แตกต่างยังไง และทำไมลูกค้าต้องเลือกคุณ
นี่คือคำถามที่สำคัญที่สุดในการทำธุรกิจขายของ ถ้าคุณตอบคำถามนี้ไม่ได้ อย่าเริ่มเลย ในตลาดที่มีร้านกาแฟเต็มไปหมด ทำไมต้องมีคุณด้วย คำตอบต้องเป็นสิ่งที่จับต้องได้ ไม่ใช่ Emotional แบบ "มันอร่อยไง" หรือ "เราตั้งใจมาก"
คำตอบที่ดีต้องเป็นแบบนี้ "เรามีฐานลูกค้ามากกว่า 1 ล้านคน มี Database ข้างหลัง มีเงินที่จะสำรองไปในการทดสอบสินค้า มีขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจน" นี่คือคำตอบที่แข็งแรง ที่ทำให้ธุรกิจขายของของคุณมีความน่าเชื่อถือ และมีโอกาสอยู่รอดในระยะยาว
หลายคนเริ่มทำธุรกิจขายของแล้วคาดหวังว่าจะรวยทันที แต่ความจริงคือ โปรเจคแรกควรมองเป็นโปรโตไทป์ เป็นการทดลอง เป็นการ Learning ไม่ใช่ธุรกิจที่ต้องทำให้รวยในทันที ถ้ามองแบบนี้ คุณจะใจเย็นกว่า จะไม่เห็นแก่ตัวกับลูกค้ามากเกินไป และจะให้เวลาตัวเองในการเรียนรู้
การทำธุรกิจขายของในยุคนี้ ถึงแม้โอกาสจะเยอะ แต่ Second Chance กลับน้อยลง เพราะคนจำได้ว่าแบรนด์เนื้อแท้เป็นอย่างไร ความจริงใจและความโปร่งใสสำคัญมากๆ เพราะฉะนั้นช่วงแรกควรให้เวลาตัวเองเรียนรู้ ทดลองทำไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ชอบก็ปรับเปลี่ยนไป
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจขายของหลายแห่งประสบความสำเร็จคือการลดเป้าหมายลง แทนที่จะทำ 10 อย่างพร้อมกัน ลองลดเหลือแค่ 1 อย่าง แต่ทำให้มันดีที่สุด เพราะเราอยากทำของดี เราต้องใช้เวลา ยิ่งเราลดเป้าหมายลง ใช้เงินน้อยที่สุด เราจะได้มีเวลาพัฒนาสินค้าให้ดีขึ้น
ปัจจุบันทุกอย่างเป็นไปได้หมด แต่คุณต้องเป็นคนท็อป 10 ของสิ่งนั้น ถ้าจะทำอาหาร ลงไปให้ละเอียดที่สุด เติม Adjective (คำวิเศษณ์) ให้กับอาหารที่คุณทำให้ได้เยอะที่สุด เช่น ไม่ใช่แค่ขนมปัง แต่เป็นโชกุปัง ปัจจุบันก็ไม่ใช่ต้องเป็นแค่โชกุปัง แต่เป็นโชกุปังที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น หรือโชกุปังสอดไส้พิเศษ ทำให้มันลึกและละเอียด แล้วไม่ได้ไปเข้าจุดที่คนอยู่กันแน่น
การทำธุรกิจขายของให้ประสบความสำเร็จ เงินทุนไม่ได้หมายถึงเงินที่เอาไปใช้เท่านั้น แต่เงินทุนคือโอกาสที่ทำให้เรามีเวลาทำผิดพลาดได้ เพราะทุกธุรกิจต้องผิดพลาดอยู่แล้ว Gap เวลาที่เรามีเงินสำรองนั้นสำคัญมาก มันทำให้เรามีเวลา Learning กับ Product มีเวลาเรียนรู้เกี่ยวกับลูกค้า
ถ้าเราร้อนเงิน วันนี้คิด พรุ่งนี้ต้องออกโปรดักต์เลย คุณภาพของโปรดักต์จะอยู่ที่ไหน แต่ถ้าเรามีเวลา Gap ให้เรา Learning เราจะได้ทำโปรดักต์ที่ดีขึ้น มีคุณภาพสูงขึ้น และลูกค้าจะประทับใจมากขึ้น นี่คือความแตกต่างระหว่างธุรกิจขายของที่อยู่ได้ยาวกับธุรกิจที่ล้มเร็ว
หลายคนทำธุรกิจขายของแล้วคิดว่า กำไรที่ได้มาเอามาใช้เลยได้ แต่ความจริงคือ กำไรจากการทำธุรกิจไม่สามารถนำมาใช้ได้ทันที กำไรคือการต่อยอดธุรกิจ ส่วนเงินเดือนนั้นเราดีไซน์ได้ ถ้ามีกำไร ควรแบ่งให้ตัวเองเป็นเงินเดือน
ช่วงแรกอาจจะแค่คนละหมื่น แต่มันพอแล้ว แล้วค่อยๆ เขยิบขึ้นไป แต่จะไม่ไปยุ่งกับกำไรสุทธิของบริษัท ตัดเงินเดือนออกมาเลย นี่คือวินัยทางการเงินที่ทำให้ธุรกิจขายของอยู่รอดได้ยาว เพราะเรามีเงินสำรองไว้พัฒนาต่อ ไม่ใช่เอากำไรมาใช้หมดจนธุรกิจไม่มีเงินต่อยอด
ตลาดมีการแข่งขันสูง แต่ถ้าคุณหาจุดต่างได้ คุณจะมีตลาดเป็นของตัวเอง ไม่ต้องไปแย่งลูกค้ากับใคร การทำธุรกิจขายของที่ดีต้องหาว่า "ทำไมต้องมีเรา" ถ้ามีคนอื่นทำอยู่แล้ว คุณไม่ควรทำเลย เว้นแต่คุณจะทำให้แตกต่าง ทำให้ดีกว่า ทำให้ลึกกว่า
ทุกธุรกิจมีโอกาส เพียงแต่ว่ามันต้องไปหานิชหรือจุดๆ นั้นให้เจอ ไม่จำเป็นต้องเป็นตลาดใหญ่ ตลาดแค่กลุ่มเล็กกลุ่มเดียว ถ้าคุณแม่นในกลุ่มนั้น มันมีโอกาสเสร็จแล้วค่อยไปต่อยอดทำธุรกิจให้มันใหญ่ขึ้น นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
การทำธุรกิจขายของให้ประสบความสำเร็จ ความรู้สำคัญมากที่สุด โดยเฉพาะความรู้เกี่ยวกับสินค้า ตลาด และลูกค้า ถ้าตอนประชุมกับซัพพลายเออร์แล้วไม่รู้คำศัพท์ ให้ถามเลย จดไว้ กลับบ้านไปทำการบ้านให้รู้ซะก่อนที่จะคุยต่อ
ความรู้ช่วยให้คุณต่อรองได้ ทะเลาะกับซัพพลายเออร์ได้เมื่อเขาพูดไม่ถูก มันเป็นอาวุธเดียวในการทำงาน การทำธุรกิจขายของที่ดีต้องเข้าใจสินค้าของตัวเองอย่างลึกซึ้ง รู้ว่าสินค้าทำมาจากอะไร ผลิตยังไง คุณสมบัติเป็นอย่างไร แตกต่างจากคู่แข่งยังไง
การศึกษาในระบบเป็นโอกาส ถ้าได้โอกาสนั้น ลองคิดดูว่ามีคนมาสอนเรา บางคนมีพ่อแม่จ่ายค่าเรียนให้ ถือว่าเรียนฟรี ถ้ามีโอกาสเรียน ให้มันเป็นห้องทดลอง วาง Strategy ทำยังไงให้เกรดดี เหมือนธุรกิจขายของที่ต้องวาง Strategy ทำยังไงให้ขายได้ มันเป็นการซ้อมฝึกความอดทน
แต่ที่สำคัญกว่าคือความอยากรู้ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือเรารู้เร็วไป แล้วเราจะไม่อดทนในการหาความรู้ ปัจจุบันคนที่ทำธุรกิจขายของประสบความสำเร็จ เขามีความรู้มากมาย แต่มันมาจากความอยากรู้ที่เขาหาเรียนรู้ด้วยตัวเอง ไม่ได้พึ่งแค่การศึกษาในระบบ
การทำธุรกิจขายของที่ปลอดภัย เงินที่จะนำมาทำธุรกิจนั้น ต้องเป็นเงินที่หายไปได้ 100% โดยที่คุณยังดูแลตัวเองได้ ไม่เดือดร้อนใคร คุณอาจจะกินบะหมี่กึ่งสำเร็จทุกวันก็ได้ แต่ห้ามเดือดร้อนใคร ถ้าเงินก้อนนั้นหายไปหมดแล้ว คุณยังดูแลตัวเองได้ ก็สะสมเงินใหม่แล้วเริ่มต่อได้
ระวังเรื่องการติดหนี้ การติดหนี้มันมาคู่กับดอกเบี้ย ดอกเบี้ยทบต้นทบดอก ถ้าคำนวณไม่ดี แค่จ่ายดอกเบี้ยก็ตายแล้ว อย่าติดหนี้จนถึงขั้นที่ทบต้นทบดอกแล้วไม่มีเงินจ่าย เพราะอีก 10-20 ปีในอนาคต คุณก็ไม่สามารถกลับมาได้
นี่คือความจริงของธุรกิจขายของทุกประเภท ไม่มีใครจ่ายเงินเราเพราะอยากให้เรารวย ทุกคนจ่ายเงินมาเพราะเรากำลังทำอะไรให้เขาได้ดีอยู่ เพิ่มตรงนั้นให้มากที่สุด ที่เหลือมันจะตามมาเอง อย่า Ignore สาเหตุจริงๆ ที่เรามีเงิน - สำคัญมากที่สุด!
หลายคนทำธุรกิจขายของแล้วคิดแต่เรื่องกำไร คิดว่าจะรวยยังไง แต่ลืมคิดว่าลูกค้าได้อะไร ถ้าคุณโฟกัสที่การแก้ปัญหาให้ลูกค้า ทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น เงินจะตามมาเองอย่างแน่นอน นี่คือหลักคิดที่ทำให้ธุรกิจอยู่ได้ยาว
การทำธุรกิจขายของในยุคที่เทคโนโลยีและตลาดเปลี่ยนแปลงเร็ว ความรู้ของเราวันนี้จะไม่เป็นความรู้ที่ดีเลิศแล้วในวันพรุ่งนี้ ต้องหาความรู้ใหม่อยู่ตลอด การเรียนรู้และการต่อยอดเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าทำในจุดนี้ไม่ได้ ไม่อดทน มันก็ยากที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในระยะกลางและระยะยาว
คำว่า "เก่ง" มันเป็นเพียงชั่วคราว และสั้นกว่าที่เราคิดมาก อาจจะแค่หลักวัน เพราะฉะนั้นต้องรู้สึกกระตือรือร้นหาสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา หาความรู้ใหม่อยู่ตลอดเวลา เมื่อเป็นแบบนี้ จะทำให้เราคิดว่าเราไม่ได้เก่งจริง เราแค่เก่งชั่วคราว และต้องพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ
การทำธุรกิจขายของให้ประสบความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคชะตา หรือการมี Connection แต่ขึ้นอยู่กับความชัดเจนในการวางตำแหน่งสินค้า การหาจุดต่างที่ไม่มีใครทำ การบริหารเงินทุนอย่างรอบคอบ และที่สำคัญที่สุดคือความอดทนและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
ธุรกิจขายของที่ดีเริ่มต้นจากการเข้าใจว่าเราทำไป เพื่อใคร แก้ปัญหาอะไรให้ใคร และทำไมต้องเป็นเรา เมื่อตอบคำถามเหล่านี้ได้ชัดเจน มีเงินทุนที่พอเหมาะ มีวินัยทางการเงิน และเรียนรู้อย่างไม่หยุดยั้ง ความสำเร็จจะตามมาเองอย่างแน่นอน 🚀
สนใจเต็นท์ขายของ
https://mfoldingtents.lnwshop.com/
โทร 0938624847
line id : @mfoldingtents
#เต็นท์ขายของ #เต็นท์พับได้ #เต็นท์จอดรถ #เต็นท์ตลาดนัด #เต็นท์สกรีน
หน้าที่เข้าชม | 1,215,132 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 878,366 ครั้ง |
เปิดร้าน | 12 มิ.ย. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 17 ต.ค. 2568 |
ยินดีรับชำระเงินด้วย :