ธุรกิจขายของยุคใหม่ 15 ความจริงที่ต้องรู้ก่อนเป็นนายตัวเอง

เมื่อคุณตัดสินใจก้าวเข้าสู่โลกของการเป็นเจ้าของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขายของออนไลน์ การเป็นฟรีแลนซ์ หรือการสร้างแบรนด์ของตัวเอง มีหลายสิ่งที่คุณต้องเตรียมพร้อมมากกว่าแค่เงินทุนและไอเดีย บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 15 ความจริงที่ทุกคนต้องเผชิญเมื่อตัดสินใจออกมาทำธุรกิจของตัวเอง

1. อิสระที่แท้จริงมาพร้อมความรับผิดชอบหนักหน่วง

หนึ่งในเหตุผลหลักที่หลายคนอยากเริ่มต้นธุรกิจขายของหรือออกมาเป็นนายตัวเองคือความอิสระ ตื่นกี่โมงก็ได้ ทำงานที่ไหนก็ได้ วางแผนชีวิตตัวเองได้เต็มที่ แต่ความจริงที่หลายคนมองข้ามคืออิสระนั้นมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่หนักหน่วงกว่าเดิมมาก

เมื่อไม่มีเจ้านายคอยดัน ไม่มีระบบคอยบังคับ หมายความว่าคุณต้องบังคับตัวเอง วันไหนที่คุณเหนื่อย ง่วง หรือไม่มีแรงจูงใจ คุณอาจจะเลือกที่จะหยุดงานไปเลย และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความล้มเหลว รายได้ทุกบาททุกสตางค์ที่เข้ามา มันมากับความรับผิดชอบจริงๆ ไม่ใช่การนั่งทำงานตามปกติแล้วได้เงินเดือนทุกสิ้นเดือน

2. วินัยสำคัญกว่าแรงบันดาลใจ 10 เท่า

ถ้าคุณคิดว่าการอ่านหนังสือพัฒนาตัวเอง การฟังพอดแคสต์สร้างแรงบันดาลใจ หรือการตะโกนหน้ากระจกว่า "ฉันทำได้" จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจขายของ คุณคิดผิดแล้ว แรงบันดาลใจเหล่านั้นอยู่ได้เพียงแป๊บเดียว แต่วินัยจะพาคุณรอดได้ตลอดทาง

ในวันที่คุณไม่เห็นอนาคต ในวันที่คุณเริ่มสงสัยตัวเอง ในวันที่แรงบันดาลใจหมดไป สิ่งเดียวที่จะช่วยคุณได้คือวินัย คุณต้องลงมือทำต่อไป แม้ว่าวันนั้นคุณจะไม่อยากโทรหาลูกค้า ไม่อยากทำคอนเทนต์ หรือไม่อยากนั่งวางแผน แต่คุณก็ต้องทำ เพราะนั่นคือสิ่งที่แยกคนที่รอดกับคนที่ล้มเหลว

3. รายได้ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ ไม่ใช่ความพยายาม

นี่คือความจริงที่โหดร้ายที่สุดของการทำธุรกิจขายของ - โลกแห่งความเป็นจริงไม่สนใจว่าคุณพยายามแค่ไหน ถ้าผลลัพธ์ไม่เกิดขึ้น ก็หมายความว่าไม่มีเงินเข้ากระเป๋า คุณอาจจะพูดว่า "ผมทำเต็มที่แล้ว" แต่ถ้าลูกค้าไม่ซื้อ เงินก็ไม่เข้า

แน่นอนว่าในมุมของการพัฒนาตัวเอง เราควรยอมรับตัวเอง ไม่ควรเฆี่ยนตีตัวเองหนักเกินไป แต่ในขณะเดียวกัน คุณก็ต้องอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงด้วย ต้องหาวิธีสร้างผลลัพธ์ให้ได้ ไม่ใช่แค่นั่งปลอบใจตัวเองว่าพยายามแล้ว

4. คุณต้องสวมหมวกทุกใบในคนเดียว

หลายคนที่ตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจขายของมักจะคิดว่าถ้าเราเก่งในสิ่งที่เราทำ เช่น เก่งการตัดต่อวิดีโอ เก่งการฉีดหน้า หรือเก่งการทำอาหาร เราก็จะประสบความสำเร็จ แต่ความจริงคือ ความเก่งในงานของคุณเป็นเพียง 20% ของความสำเร็จเท่านั้น

อีก 80% คือทักษะอื่นๆ ที่คุณต้องเรียนรู้ เช่น การขาย การตลาด การบริหารเงิน การบริหารคน การสร้างระบบ การวางแผนกลยุทธ์ คุณต้องเป็นทั้งนักขาย นักการตลาด นักบัญชี ผู้บริหาร และเจ้านายไปพร้อมๆ กัน นี่คือสิ่งที่หลายคนมองข้ามและทำให้ล้มเหลว

5. ความภูมิใจในตัวเองจะผันแปรตามรายได้

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติและคุณหยุดยั้งไม่ได้ เมื่อคุณทำธุรกิจขายของหรือธุรกิจใดๆ ที่รายได้ไม่แน่นอน เดือนไหนรายได้น้อย คุณจะรู้สึกว่าตัวเองห่วยแตก เดือนไหนรายได้ดี คุณจะรู้สึกมีความสุขมาก

คุณต้องมีสติกับเรื่องนี้ ต้องเตือนตัวเองเสมอว่ารายได้หรือยอดขายไม่ได้เป็นตัวกำหนดคุณค่าของคุณในฐานะมนุษย์ คุณค่าของคุณมันอยู่อย่างนั้นมาตลอด เพียงแต่ผลลัพธ์บางครั้งยังไม่มา แต่ไม่ได้แปลว่าคุณไม่มีคุณค่า

6. การพัฒนาตัวเองเป็น Survival Game

เมื่อก่อนตอนทำงานประจำ การออกกำลังกาย การอ่านหนังสือ การเรียนคอร์ส มันเป็น Luxury เป็นสิ่งที่คุณเลือกทำเพื่อพัฒนาตัวเอง แต่เมื่อคุณออกมาทำธุรกิจขายของหรือเป็นนายตัวเอง การพัฒนาตัวเองจะกลายเป็นความจำเป็น

คุณต้องออกกำลังกาย ไม่งั้นถ้าคุณป่วย คุณหาเงินไม่ได้ คุณต้องอ่านหนังสือ ไม่งั้นคุณจะไม่มีความรู้ใหม่มาต่อยอดธุรกิจ คุณต้องเรียนคอร์ส ไม่งั้นคุณจะแก้ปัญหาไม่ได้ มันไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป มันคือทางรอด

7. การลงมือทำจะทำให้ทุกอย่างชัดเจนขึ้น

"Stress comes from inaction" - ความเครียดเกิดจากการอยู่เฉยๆ คุณไม่สามารถนั่งคิดวางแผนอย่างเดียวแล้วคาดหว่าจะเห็นหนทางชัดเจนได้ ยิ่งคิดยิ่งฟุ้ง ยิ่งคิดยิ่งเครียด

เมื่อคุณเริ่มต้นธุรกิจขายของ คุณจะไม่มีทางรู้ว่าต้องทำอะไรต่อจนกว่าคุณจะได้ลงมือทำ ความชัดเจนจริงๆ เกิดจากการ Test - Fail - Adjust - Test - Fail - Adjust ลองไป ล้มไป ปรับไป แล้วลองใหม่ นั่นคือวิธีเดียวที่จะทำให้คุณเห็นเส้นทางไปต่อ

8. ไม่มีใครมาจูงมือคุณตลอดทาง

คุณต้องเลิกคิดแบบเด็ก อย่าคาดหวังว่าจะมีคนมาสอนคุณทีละขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบ ต่อให้คุณไปเรียนคอร์สราคาหลักแสนหรือหลักล้าน คนที่สอนก็สามารถให้ความรู้และคำแนะนำได้เท่านั้น แต่การเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณ การทำให้ธุรกิจขายของของคุณประสบความสำเร็จ มันเป็นหน้าที่ของคุณที่จะต้องลงมือทำเอง

คุณต้องโตเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว ต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเอง ไม่มีใครมาคอยจูงมือคุณตลอดไป ถ้าคุณยังคิดแบบนี้อยู่ คุณจะไม่มีวันประสบความสำเร็จ

9. มันจะเป็นเส้นทางที่เหงา

ไม่มีใครเข้าใจคุณ 100% พ่อแม่อาจไม่เข้าใจ เพื่อนอาจไม่เข้าใจ แม้แต่คนรักก็อาจไม่เข้าใจ เพราะพวกเขาไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เดียวกับคุณ เขาอาจจะเห็นแค่ว่าคุณทำธุรกิจขายของออนไลน์ แต่เขาไม่รู้ว่าคุณต้องตื่นมาพร้อมกับรายจ่าย ต้องวิ่งหาเงินทุกวัน ต้องคิดทุกอย่างด้วยตัวเอง

แต่มันไม่ใช่ความผิดของเขา และคุณก็ไม่ควรคาดหวังให้เขามาเข้าใจคุณ ชีวิตใครชีวิตมัน คุณเลือกเอง แล้วก็ต้องกัดฟันอยู่กับมัน

10. คุณต้องเลือก - จะขายหรือจะตาย

การขายเป็นสิ่งที่คนไทยหลายคนกลัว ถูกปลูกฝังมาว่างานขายมันน่าอาย หน้าด้าน ไม่มีเกียรติ แต่ถ้าคุณออกมาทำธุรกิจขายของหรือธุรกิจใดๆ คุณมีทางเลือกแค่ 2 ทาง - จะขายให้เป็นหรือจะอดตาย

ไม่มีทางเลือกอื่น คุณไม่สามารถเป็นแค่คนที่เก่งในงานของคุณอย่างเดียว คุณต้องขายได้ด้วย ต้องนำเสนอตัวเองได้ ต้องปิดการขายได้ ผู้ประกอบการทุกคนเป็นยอดนักขาย เพราะถ้าขายไม่เป็น ก็ไม่มีรายได้

11. มันจะรู้สึกช้า จนกว่ามันจะรู้สึกเร็ว

ช่วงแรกๆ ที่คุณเริ่มต้นธุรกิจขายของ ทุกอย่างจะรู้สึกช้ามาก ทุกอย่างน่าสงสัย คุณจะนั่งถามตัวเองว่า "มันเวิร์คจริงหรอ?" แต่พอทุกอย่างเริ่มคลิก พอคุณเริ่มมีทักษะมากพอ เริ่มมีประสบการณ์ ผลลัพธ์จะมาแบบรวดเร็วมาก

เหมือนการออกกำลังกาย 3 เดือนแรกแทบไม่เห็นผล แต่พอเดือนที่ 6 ผลลัพธ์จะชัดเจนมาก หรือเหมือนการลงทุน 5 ปีแรกเงินไม่กระทิก แต่พอปีที่ 10-15 เงินจะพุ่งขึ้นแบบทบทน

12. คนซื้อคุณ มากกว่าสินค้าของคุณ

"People buy from People" - สุดท้ายแล้ว คนซื้อคน ไม่ได้ซื้อแค่สินค้า เขาซื้อเรื่องราวที่คุณเล่า เขาซื้อตัวตนของเจ้าของ เขาซื้อนิสัยของคนขาย

เมื่อคุณทำธุรกิจขายของ อย่าเน้นแค่สินค้าที่ดีที่สุด แต่ให้ความสำคัญกับการเป็นมนุษย์ที่น่าซื้อด้วย ทำ Content ให้เห็นความเป็นตัวคุณ แชร์เรื่องราว แชร์ประสบการณ์ เพราะคนจะซื้อจากคนที่เขารู้สึกเชื่อมโยง

13. มันมีเลเวลถัดไปเสมอ

ไม่ว่าคุณจะประสบความสำเร็จแค่ไหน จะทำธุรกิจขายของได้ยอดเท่าไหร่ ก็จะมีคนที่ทำได้ดีกว่าเสมอ มีเลเวลที่สูงกว่าเสมอ คุณต้องยอมรับเรื่องนี้

ใช้มันเป็นแรงผลักดันได้ แต่อย่าให้มันกลายเป็นความทุกข์ ยินดีกับสิ่งที่คุณมีในวันนี้ แล้วค่อยตั้งเป้าสูงขึ้นต่อไป แต่อย่าตั้งเป้าด้วยการมองว่าตัวเองไม่ดีพอ

14. คุณต้องพักบ้าง แม้จะไม่อยากพักก็ตาม

เมื่อคุณเป็นเจ้าของธุรกิจขายของหรือธุรกิจใดๆ คุณจะไม่อยากพักจริงๆ เพราะคุณรู้สึกว่ายังทำได้อีก ยังมีงานอีกเยอะ แต่คุณต้องบังคับตัวเองให้พัก เพราะคุณเป็นคน ไม่ใช่เครื่องจักร

ให้เวลาตัวเองพักผ่อน ออกกำลังกาย ทำสิ่งที่ชอบ เพราะถ้าคุณไม่พัก คุณจะเหนื่อยหมดไฟ และสุดท้ายธุรกิจของคุณก็จะได้รับผลกระทบ

15. มันคุ้มค่ามากๆ จริงๆ

ทั้งหมดที่พูดมา ทั้งเหนื่อย ท้อ เครียด หาเงินไม่ได้ เหงา อาย กลัว ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย แต่สุดท้ายแล้ว มันคุ้มค่ามากๆ จริงๆ

ความรู้สึกว่าคุณเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง ไม่มีใครเป็นเจ้านายคุณ อาณาจักรที่เกิดจากมือคุณเอง การได้เห็นว่าสิ่งที่เคยเป็นแค่ความคิดกลายเป็นความจริง - มันตื้นตันจนอยากจะร้องไห้

ถ้าคุณฟังมาถึงตรงนี้แล้วไม่ได้รู้สึกกลัว แต่กลับรู้สึกตื่นเต้น อยากลุยกับมัน แสดงว่าคุณพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นธุรกิจขายของหรือธุรกิจใดๆ ของคุณเอง มาลุยด้วยกันครับ

https://mfoldingtents.lnwshop.com/

โทร 0938624847

line id : @mfoldingtents

#เต็นท์ขายของ #เต็นท์พับได้ #เต็นท์จอดรถ #เต็นท์ตลาดนัด #เต็นท์สกรีน