การทำธุรกิจขายของในยุคปัจจุบันต้องอาศัยมากกว่าแค่การมีสินค้าดีๆ มาขาย ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ ได้แบ่งปันเคล็ดลับสำคัญที่พาธุรกิจจากเงินลงทุนเพียง 1 ล้านบาท สู่มูลค่าธุรกิจแสนล้านบาท ภายในเวลาเพียง 30 ปี
ธุรกิจขายของที่ยั่งยืนต้องเริ่มจากการมองเห็นเทรนด์ก่อนคนอื่น "การทำธุรกิจไม่ใช่แค่การขายสินค้า แต่ต้องเข้าใจว่าตลาดกำลังเปลี่ยนไปทางไหน" เมื่อ 30 ปีก่อน เขามองเห็นว่าอุตสาหกรรมพลาสติกในไทยกำลังจะเติบโต เพราะประเทศไทยเริ่มมีปิโตรเคมีเป็นของตัวเอง ทำให้ต้นทุนการผลิตพลาสติกลดลง
ในการทำธุรกิจขายของ ความรู้พื้นฐานคือกุญแจสำคัญ จบสาธารณสุข แต่กลับไปอ่านหนังสือเคมีเพื่อทำความเข้าใจโครงสร้างโมเลกุลของพลาสติก จนสามารถแนะนำลูกค้าได้ว่าควรใช้พลาสติกชนิดไหนสำหรับงานแต่ละประเภท
ธุรกิจขายของที่ประสบความสำเร็จไม่ได้ขายแค่สินค้า แต่ขายโซลูชั่น "ผมไม่ได้บอกลูกค้าว่ามีสินค้านี้จะซื้อไหม แต่ไปดูก่อนว่าเขาต้องการอะไรที่ยังไม่มี แล้วหาของมาให้" นี่คือเคล็ดลับที่ทำให้เขาขายชนะคู่แข่งแม้ราคาจะสูงกว่า
เมื่อเศรษฐกิจไทยมีปัญหา ตัดสินใจเปลี่ยนจากขายให้เอกชนเป็นขายให้ภาครัฐทั้งหมด เพราะรู้ว่าในช่วงเศรษฐกิจถดถอย รัฐบาลจะต้องใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การปรับตัวอย่างรวดเร็วนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจขายของทุกประเภท
ผู้ประกอบการที่ฉลาดจะไม่รอให้ธุรกิจเก่าเริ่มตก แต่จะเริ่มสร้างธุรกิจใหม่ตั้งแต่ธุรกิจเก่ายังให้กำไรดี "ระหว่างที่พลาสติกยังขายดีอยู่ ผมก็เริ่มมองหาธุรกิจต่อไปแล้ว จนมาเจอโลจิสติกส์" การวางแผนล่วงหน้านี้ทำให้ธุรกิจขายของเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
แทนที่จะรอเก็บเงินเอง เลือกขายหุ้นให้นักลงทุนที่เข้าใจธุรกิจ เพื่อนำเงินที่ได้ไปขยายธุรกิจให้เร็วขึ้น "การขายหุ้นไม่ใช่การเสียการควบคุม แต่เป็นการหาพาร์ทเนอร์ที่เข้าใจธุรกิจของเรา"
สำหรับธุรกิจขายของ การเลือกพาร์ทเนอร์ที่ทำธุรกิจคล้ายกันจะได้ประโยชน์มากกว่าการหานักลงทุนที่ให้เงินอย่างเดียว เพราะสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ ลูกค้า และประสบการณ์ได้
การทำธุรกิจขายของในช่วงแรก ผู้ประกอบการต้องลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เล่าว่าเขาขับรถตั้งแต่ 3 โมงเช้าไปหาลูกค้าต่างจังหวัด ทำแบบนี้ปีกว่าจนเข้าใจระบบทั้งหมด
ความคิดเป็นรากฐานสำคัญของธุรกิจขายของ ยึดหลัก 3 Think คือ คิดใหญ่ คิดบวก และคิดเพื่ออนาคต "อย่าไปสนใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ให้คิดแต่เรื่องใหญ่ๆ และมองหาโอกาสตลอดเวลา"
บริษัทที่ไม่รอดมักจะบ่นและคิดว่าต้องมีคนอื่นมาช่วย แต่ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จจะใช้เวลานั้นไปหาโอกาสใหม่แทน "ถ้าคุณเสียเวลาบ่นไปแล้ว คุณจะมีเวลาทำงานอีกเมื่อไหร่"
ธุรกิจขายของต้องเข้าใจทิศทางนโยบายของภาครัฐ เช่น การส่งเสริม EV หรือ Sustainability เพื่อนำมาปรับใช้กับธุรกิจของตัวเอง "รัฐบาลให้ incentive เรื่องอะไร เราต้องศึกษาและหาทางใช้ประโยชน์"
เมื่อธุรกิจเติบโตแล้ว ผู้ประกอบการต้องคิดถึงสิ่งที่ใหญ่กว่าตัวเอง "ของผมไม่มีคำว่า Work Life Balance มีแต่ Work Life Purpose เพราะ Purpose ทำให้ชีวิตมีความหมาย"
สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มธุรกิจขายของด้วยเงิน 1 ล้านบาท แนะนำให้:
ก่อนเลือกทำธุรกิจอะไร ต้องรู้ก่อนว่าตัวเองเก่งเรื่องอะไร มีจุดแข็งอะไรที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้
ดูเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้น เช่น Sustainability, AI, หรือ EV แต่อย่าไปแข่งกับรายใหญ่ ให้หาช่องว่างในกลุ่ม SME
โปรเจกต์แรกไม่ต้องคิดเรื่องกำไร ให้เน้นที่การสร้างห้องทดลองและ Case Study เพื่อพิสูจน์ว่าสามารถแก้ปัญหาลูกค้าได้จริง
อย่าทำแบบเดิม เอา AI หรือระบบใหม่มาช่วยให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นและต้นทุนลดลง
ธุรกิจขายของในยุคปัจจุบันไม่สามารถหลีกเลี่ยงเทคโนโลยีได้ เตือนว่า "ถ้าใครทำคอนเทนต์ไม่เป็น หรือไม่มีเวลาทำคอนเทนต์ใหม่ๆ โอกาสจะรอดเรียกว่าแทบไม่มีเลย"
การใช้ AI และเทคโนโลยีใหม่ๆ จะช่วยให้ธุรกิจขายของมีความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยเฉพาะการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
การทำธุรกิจขายของที่ประสบความสำเร็จต้องอาศัยการวางแผนอย่างรอบคอบ การจับเทรนด์ที่ถูกต้อง และการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เคล็ดลับสำคัญที่สุดคือการมี Purpose ที่ชัดเจนและการไม่หยุดเรียนรู้
"ธุรกิจที่ดีคือธุรกิจที่ทำซ้ำได้ ไม่ใช่แค่ขายได้ครั้งเดียวแล้วจบ ต้องสร้างระบบให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ" นี่คือหัวใจสำคัญของธุรกิจขายของที่ยั่งยืนและเติบโตได้ในระยะยาว
สนใจเต็นท์ขายของ
https://mfoldingtents.lnwshop.com/
โทร 0938624847
line id : @mfoldingtents
#เต็นท์ขายของ #เต็นท์พับได้ #เต็นท์จอดรถ #เต็นท์ตลาดนัด #เต็นท์สกรีน
หน้าที่เข้าชม | 1,215,132 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 878,366 ครั้ง |
เปิดร้าน | 12 มิ.ย. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 17 ต.ค. 2568 |
ยินดีรับชำระเงินด้วย :